วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

In the future ::


วิเคราะห์ในอีก 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2560)






1.เศรษฐกิจ  เศรษฐกิจจะดีขึ้นตามลำดับ และตามการพัฒนาของประเทศ แต่อาจจะมีการผันผวนบ้าง เพราะอาจจะยังมีสงครามกลางเมืองอยู่ ผู้คนส่วนใหญ่จะใช้เงินใช้จ่ายมากขึ้น แต่อาจจะหันมาซื้อขายกันบนอินเตอร์เน็ต ( E-commerce) กันซะมากกว่าจะเดินออกไปเดินเลือกซื้อ เพราะทั้งง่ายและสะดวกกว่า  มีการลงทุนหุ้นมากขึ้น


2.สังคม เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้จ่ายมากขึ้น ซื้อของมากขึ้น ต้องการความสะดวกสะบายมากขึ้น และใช้ชีวิตที่ความรวดเร็ว เร่งรีบ (ซึ่งในปัจจุบันจะใช้ชีวิตแบบนี้เฉพาะเมืองใหญ่ๆเท่านั้น) อาจจะนิยมใช้เครื่องทำความสะอาดในการทุ่นแรงกันอย่างแพร่หลาย

3.เทคโนโลยี  เทคโนโลยีในอนาคตจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดยั้ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากขึ้นอย่างเด่นชัด  ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสะบายมากขึ้น 

4. มนุษย์  มนุษย์ในยุควัตถุนิยม และมีเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมักจะขาดปฎิสัมพันธ์กับคนรอบตัว มีคอมพิวเตอร์ หรือ Tablet เป็นเพื่อนมากกว่ามนุษย์ด้วย มีเวลาปฎิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวน้อยลง มีโลกส่วนตัวสูงกว่าปัจจุบัน  แต่ถึงกระนั้นมนุษย์ก็จะเริ่มมีการดุแลสุขภาพมากขึ้น และรักความสะอาดกันมากขึ้น

5.สิ่งแวดล้อม  เนื่องจากสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น มีภัยพิบัติทางธรรมชาติมากขึ้น จึงทำให้มีเชื้อโรคและแบคทีเรียเพิ่มขยายมากขึ้นตามมาด้วย  ทุกคนเริ่มต้องการธรรมชาติเพิ่มขึ้น เพื่อให้ จิตใจและสุขภาพดี สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอาจจะลดลง และอาจจะมีมีจำกัดพื้นที่เพื่อเป็นที่ ที่เป็นสวนสาธารณะ อาจจะหาต้นไม้สีเขียวเป็นผืนป่าใหญ่ได้น้อยลง




ทรัพยากรน้ำในอนาคต


        ในอนาคตอย่างที่ทราบกันดีว่า มนุษย์อาจจะต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนทรัพยากรต่างๆ เช่น น้ำ และน้ำมัน เป็นต้น   ซึ่งทรัพยากรน้ำ หมายถึง แหล่งต้นตอของน้ำที่เป็นประโยชน์หรือมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่มนุษย์ ทรัพยากรน้ำมีความสำคัญเนื่องจากน้ำเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากแก่การดำรงชีวิต ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ได้มีการนำน้ำมาใช้ในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บ้านเรือน นันทนาการและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม น้ำที่มนุษย์นำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวนั้นจะเป็นน้ำจืด แต่น้ำจืดในโลกเรามีเพียงร้อยละ 2.5 เท่านั้น และปริมาณ 2 ใน 3 ของน้ำจืดจำนวนนี้เป็นน้ำแข็งในรูปของธารน้ำแข็งและน้ำแข็งที่จับตัวกันอยู่ที่ขั้วโลกทั้งสองขั้ว ปัจจุบันความต้องการน้ำมีมากกว่าน้ำจืดที่มีอยู่ในหลายส่วนของโลก และในอีกหลายพื้นที่ในโลกกำลังจะประสบปัญหาความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน ของน้ำในอนาคตอันไม่ไกลนัก กรอบปฏิบัติเพื่อการจัดสรรทรัพยากรน้ำให้แก่ผู้ใช้น้ำ
         ดังนั้น ในอนาคตสุขภัณฑ์อาจจะถูกออกแบบให้มีการรีไซเคิลการใช้น้ำจากที่ต่างๆมาชำระ แทนที่จะให้น้ำสะอาด และที่สำคัญต้องออกแบบให้ใช้น้ำน้อยและต้องถูกสุขลักษณะอนามัยมากที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะนำไปสู่โรคระบาดได้ในอนาคต    แต่หากจะพูดถึงด้านดีไซน์ในอนาคตนั้น มองว่าอาจจะออกแบบให้ประหยัดพลังงานในการใช้มากขึ้น เพราะปัจจุบันนี้ โถสุขภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ล้วนแต่ใช้ระบบไฟฟ้าทั้งสิ้น  ในอนาคตอาจจะให้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลมทดแทนก็เป็นได้   ส่วนฟังก์ชั่นในปัจจุบัน ก็มีฟังก์ชั่นต่างๆมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ในอนาคตฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจจะมีเพิ่มเติม เช่น เป็นปฎิทินบันทึกการใช้งาน หรืออาจจะมีระบบ organizer ช่วยบันทึกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันของผู้ใช้งาน  หรืออาจจะเป็นฟังก์ชั่นที่สามารถพับเก็บได้ก็อาจจะเป็นได้ เพราะในอนาคต พื้นที่ในการใช้ชีวิตอยู่อาจจะมีน้อยลง การที่ต้องเหลือพื้นที่ใช้สอยนั้นอาจจะจำเป็นมากก็เป็นได้ 


โถสุขภัณฑ์ในอนาคต

 ตัวอย่างสุดยอดผลิตภัณฑ์ประหยัดน้ำ
       สืบเนื่องมาจากที่มีนักวิจัยหลายสำนักคาดการณ์ไว้ว่าในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า หรือราวพ.ศ. 2568 ในกว่า 41 ประเทศจะเกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำดื่ม นักออกแบบจึงพยายามคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกรใช้น้ำให้มี ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมากที่สุด วันนี้จะพามาดูกันว่าแต่ละผลิตภัณฑ์ที่เขาออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดน้ำอีก ทั้งยังดูหน้าตาดี..มีชาติตระกูลอีกต่างหาก จะมีแบบไหนกันบ้าง



Tlalock

     โถสุขภัณฑ์และอ่างสุดประหยัดแบบ 2 in 1 ตัวแรกนี้มีชื่อว่า " Tlalock " จากการออกแบบของ  ARIEL ROJO STUDIO ซึ่งเป็นการนำกระบวนทัศน์ที่มีอยู่มาสรรสร้างสุขภัณฑ์ที่จะสามารถช่วยใน เรื่องของการหยัดน้ำได้จริง โดยผู้ออกแบบได้นำส่วนของอ่างล่างหน้ามาประกอบติดเข้ากับด้านบนของชักโครก เพื่อทำให้เกิดนวัตกรรมที่จะทำให้น้ำที่ถูกเปิดใช้ในการล้างมือไม่สูญเสียไป โดยเปล่าประโยชน์ แต่จะเข้าไปเพิ่มปริมาณน้ำให้กับแท็งก์น้ำในการชักโครกแทนและสามารถประหยัด น้ำได้ถึง 83% ของการใช้งานปกติในแต่ละวัน










Eco Bath

  อ่าง ล้างหน้าประหยัดน้ำชิ้นนี้มีชื่อว่า Eco Bath แค่ชื่อก็การันตีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปแล้ว 50% ว่าแล้วก็มาดูวิธีการใช้งานกันเลยดีกว่า - Eco Bath ถูกออกแบบมาเพื่อดึงเอาน้ำที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์จากการล้างมือกลับมาใช้ ใหม่โดยนำมาเก็บไว้ในส่วนของแท็งก์น้ำชักโครก ซึ่งแท็งก์เก็บน้ำจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนซ้ายขวา โดยหากเรากดชักโครกด้านซ้ายจะเป็นการใช้น้ำของถังเก็บน้ำรีไซเคิลที่เตรียม ไว้เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ แต่หากเรากดชักโครกในด้านขวาก็จะเป็นการใช้น้ำประปาธรรมดา ซึ่งภายนอกก็จะมีลักษณะเหมือนแท็งก์น้ำปกติทั่วไป 





หลักการทำงานของ Eco Bath

ใน การใช้งานแต่ละครั้งเราจะสามารถสังเกตุได้จากหลอด LED ที่ติดอยู่กับตัวแท็งก์ ถ้าหาก LED แสดงผลออกมาเป็นแดงก็จะหมายความว่าถังน้ำรีไซเคิลยังบรรจุน้ำไม่เต็ม แต่ถ้าหากเป็นแสงสีเขียวก็จะหมายความว่าถังน้ำรีไซเคิลพร้อมใช้แล้ว



ห้องน้ำในอนาคต












     จะเห็นได้จากภาพตัวอย่างข้างต้นว่าห้องน้ำในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้านั้น จะออกแบบให้มี Function มากขึ้น  การ Design มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ยากต่อการทำความสะอาดเป็นอย่างมาก แต่ในอนาคต อาจจะมีการพัฒนาระบบทำความสะอาดใหม่ๆขึ้นมา เพื่อตอบสนองก็เป็นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น